TOP 3 ประกันโรคมะเร็ง คุ้มครองทุกระยะ ปี 2018
ประกันมะเร็งที่จะกล่าวต่อไปนี้ เป็นแบบ ตรวจเจอ -> จ่าย100% เต็มทุนประกัน -> จบ
- ตรวจเจอ คือ ตรวจเจอโดยแพทย์ ว่าเป็นมะเร็ง มีหลักฐานชิ้นเนื้อ และอื่นๆ
- ตรวจเจอไม่ว่าระยะใด หรือง่ายๆคือ จ่ายหมดไม่ว่าเจอระยะใด (ไม่ต้องแบ่งระยะให้ปวดหัว)
- จ่าย คือ จ่ายเต็มวงเงิน ของทุนประกัน ไม่ว่าระยะไหน เช่น ทุน 1 ล้าน จ่าย 1 ล้าน (ไม่ใช่ แบ่งจ่ายเป็น % ตามระยะที่เป็น เช่น ระยะแรก 20% ระยะสุดท้าย 100%)
- จบ คือ ปิดเล่มกรมธรรม์ เคลมมะเร็งอีกไม่ได้แล้ว แต่ หากมีประกัน PA พ่วง ก็ยังสามารถ เคลมส่วน PA ได้ เป็นต้น
สิ่งที่เข้าใจผิดบ่อยๆ ในคนที่จะทำประกันโรคมะเร็ง
- ประกันมะเร็งเป็นประกันสะสมทรัพย์ทำแล้วได้เงินคืนด้วย นี้เป็นสิ่งที่เข้าใจผิด ที่ถูกคืออาจมีประกันมะเร็งไม่เคลมมีคืน อาจคืนเบี้ย 1 ปี แต่ไม่ใช่คืนทั้งหมดเหมือนกับแบบประกันชีวิตสะสมทรัพย์
- เข้าใจผิดว่า "ทำประกันมะเร็ง แล้วตรวจเจอเคลมได้ทันที" ที่แท้จริงคือ ประกันมะเร็งมีระยะเวลารอคอย 90 วัน
- ทำประกันชีวิตพ่วงมะเร็งดีกว่า เพราะได้เบี้ยคืนด้วย สิ่งนี้ก็เข้าใจผิด เพราะที่ได้คืนคือส่วนของประกันชีวิต ส่วนประกันมะเร็งที่พ่วงนั้น เป็นแบบเบี้ยจ่ายทิ้ง
- มีญาติพี่น้องพ่อ แม่ เป็นมะเร็ง แล้วจะทำประกันมะเร็งไม่ได้ จะแนะนำว่า ยังมีบางบริษัทที่ยังทำได้ ลองอ่านต่อดู
- หากไม่รักษา เคลมไม่ได้ แท้จริงแล้วประกันมะเร็งมีทั้งจ่ายสินไหมแบบค่ารักษาแบบนี้จะระบุไว้ชัดเจนว่าค่ารักษา กับจ่ายสินไหมแบบตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง โดยแพทย์มีหลักฐานชิ้นเนื้อ (ต่อจากนั้นจะไม่รักษา จะไปรักษาทางเลือก หรือจะไปรักษาแผนปัจจุบันที่ รพ. ก็ได้สินไหมหมด)
1.
Cancer Plus PA กรุงเทพประกันภัย
เป็นประกันมะเร็งเบี้ยคงที่ แถม PA
Cancer Plus PA ของ กรุงเทพประกันภัย
จุดเด่น
- ค่าเบี้ยคงที่ เบี้ยในปีต่ออายุ ใช้ค่าเบี้ยแรกเข้า ใครได้เข้าก่อน 34 ปี ได้ประโยชน์มาก
- ช่วงอายุที่ควรทำคือ ก่อน 34 ปี เพราะพออายุ 35 ปี เบี้ยแรกเข้า กระโดดขึ้นมาสูงกว่า คนอายุ 34 ปี ถึงเกือบ 2 เท่า
- การนับอายุ เศษตั้งแต่ 1 วันปัดเป็น 1 ปี เช่น ทำตอนอายุ 34 ปี บริบูรณ์ ใช้เบี้ยของคน 34 ปี แต่ทำตอนอายุ 34 ปี 1 วัน ใช้เบี้ยของ 35 ปี
- มีผลประโยชน์ ชดเชย กรณีผ่าเสริมสร้างเต้านม หลังผ่ามะเร็งเต้านม ในหญิง และ กรณีมะเร็งลำไส้ในชาย และมีพ่วง PA ให้ด้วย อันนี้เป็นส่วนที่เพิ่มพิเศษ
จุดด้อย
- มีประวัติคนในครอบครัวสายตรง พ่อ แม่ พี่น้อง เป็นมะเร็ง จะโดนปฎิเสธ ใบคำขอเอาประกัน
2.
Smile cancer เมืองไทยประกันภัย
เป็นประกันมะเร็งแบบมาตรฐานสุดๆ
จุดเด่น
- มีทุนให้เลือกคือ 2 แสน, 4.5 แสน, 7 แสน และทำรวมกันต่อคนได้ไม่เกิน 1 ล้าน
- นั้นหมายความว่า หากต้องการทำทุน 9 แสน คือ ทำแผน 1 กับ 3 หรือ ซื้อแผน 2 จำนวน 2 กรมธรรม์ รวมกันได้ 9 แสน
- หากต้องการให้ได้ใกล้เคียง 2 ล้าน ซึ่งเป็นทุนที่เหมาะสมกับค่ารักษามะเร็งบางชนิดที่ค่ายาเคมี แพงผิดปกติ ก็ซื้อ ร่วมกับ ของกรุงเทพ แผน 1 ล้านอีกแผนได้
จุดด้อย
- ประกันมะเร็งเมืองไทยค่าเบี้ยในปีต่ออายุจะ ปรับเบี้ยตามอายุ ไม่ได้ใช้เบี้ยแรกเข้า นั่นหมายความว่า จ่ายค่าเบี้ยต่อปี แพงขึ้นในอนาคตเมื่อต่ออายุไปเรื่อยๆ
ศึกษาในตารางจะเห็นว่า ไม่มี add on ความคุ้มครองอื่นๆ ที่ต้องมาศึกษาให้ปวดหัว เป็นแบบมาตรฐานที่สุดแล้ว
3.
ประกันมะเร็ง อุ่นใจ-คุ้มค่า-ครอบคุม LMG
ผู้ให้โอกาส
ประกันมะเร็ง แผนอุ่นใจ, แผนคุ้มค่า, แผนครอบคุม รวมมีให้เลือก 3 แผน ความคุ้มครองเรียงจากน้อยไปมาก และแต่ละแผนยังมีแผนย่อยตามทุนประกันอีก โดยแผนอุ่นใจ ให้ความคุ้มครองมาตรฐาน ส่วนแผนครอบคุม มีความคุ้มครองหมวดอื่นๆ เพิ่มขึ้นมา
จุดเด่น
- ประกันมะเร็งของ LMG ให้โอกาสคนที่มีประวัติสมาชิกครอบครัวเป็นมะเร็ง เพราะคำถามในใบคำขอ จะถามว่า "เคยมีสมาชิกในครอบครัวตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป เป็นมะเร็งตอนอายุน้อยกว่า 50 หรือไม่" นั่นคือ ผู้สนใจทำประกันบางท่านที่จะทำประกันมะเร็ง แต่กลัวว่าเคยมีสมาชิกในครอบครัวเป็นมะเร็ง จะโดนปฎิเสธ ยังอาจทำกับ LMG ได้
- ในใบเสนอขาย มีขายถึงอายุ 54 แต่การรับต่ออายุ รับต่ออายุถึง 70 ปี
จุดด้อย
- เบี้ยประกันปรับตามอายุเหมือนเมืองไทย
- ใบคำขอข้อ 5 คนในครอบครัวต้องเป็นมะเร็ง 2 คนและเป็นตอนอายุน้อยกว่า 50 ปี ให้ตอบว่าเคย ถ้านอกจากนั้น ให้ตอบว่าไม่เคย ไม่มี
- สมาชิกในครอบครัว พี่น้องร่วมบิดา มารดา เดียวกัน คืออะไร ? คือ พี่ชาย พี่สาว น้องชาย น้องสาวของผู้จะทำประกัน ไม่ใช่ ลุง ป้า น้า อา ไม่ใช่พี่น้อง ของพ่อ แม่ นะครับ
- สรุปง่ายๆ คือ สมาชิกในครอบครัวนี้หมายความว่าแค่คนในครอบครัวเรา นับจากผู้เอาประกัน ขึ้นไป คือ พ่อ แม่ นับจากระดับเดียวกัน คือ พี่ชายน้องชาย พี่สาวน้องสาว และนับลงไปคือ บุตร
เช็คราคาโรคมะเร็ง แค่ใส่ อายุ และเพศ
รับส่วนลดพิเศษ 5% คลิกเลย
รับส่วนลดพิเศษ 5% คลิกเลย
-----------------------------------------------------------------------------
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันมะเร็ง
ยาโรคมะเร็ง บางตัว แพงและเกินสิทธิ์ข้าราชการ
- นี้คือตัวอย่าง สูตร pertuzumab + herceptin ซึ่งใช้รักษามะเร็งเต้านม เนื่องจากตับอักเสบมาก รับยาเคมีไม่ไหว ต้องใช้เป็น targeted therapy ซึ่งไม่ส่งผลต่อตับ ส่วนที่เกินสิทธิ์ จ่ายเอง 2.2 แสนต่อครั้งในครั้งแรก เรียก loading dose ครั้งต่อๆไป ครั้งละ 1.1 แสน โดยให้ 3 สัปดาห์ ครั้ง
- สิทธิ์ข้าราชการเบิกค่าห้องได้ 1000 บาท /คืน และต้องเป็นรพ. รัฐ จึงจะเบิกได้
การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านม ที่เคลมเพิ่มได้ของกรุงเทพประกันภัย แผน cancer plus PA
เนื่องจากการผ่าตัดเต้านมในมะเร็งเต้านม ทำให้มีการสูญเสียอวัยวะที่เป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิงไปหลังการผ่า แพทย์ควรมีการให้คำแนะนำเรื่อง การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านม
การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านม มี 2 ขั้นตอนคือ
- สร้างเต้านม สามารถใช้เต้านมเทียม ซิลิโคน หรือใช้เนื้อเยื่อตนเอง
- สร้างหัวนม และลานนม
ข้อควรพิจารณา คือผู้ป่วยที่ต้องฉายแสงหลังผ่าตัด อาจสร้างปัญหาให้ตำแหน่งที่เสริมสร้างเต้านม ได้รับการอักเสบ จึงมักจะรอให้การฉายแสงผ่านไปก่อนแล้วค่อยมาผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมในภายหลัง
การเคลมหมวดชดเชยเพิ่มเติม จะยากกว่าเคลมหมวดหลัก
หมวดชดเชยต่างๆ จะต้องเคลมแยกต่างหาก และต้องเคลมภายหลังการรักษา เช่น จะเคลมค่าชดเชย นอนรพ. หรือ เคลมค่ารักษาด้วยเคมีบำบัด ก็ต้องมีการนอน รพ.จริง หรือ รักษาจริง และส่งหลักฐานในการเคลมภายหลัง
ดังนั้น การเลือกแผนประกัน ให้มองถึง เบี้ยที่จ่ายต่อทุนประกันที่ได้ เป็นหลัก เพราะทุนตรงนี้ได้เต็มจำนวนทันที หากมีหลักฐานวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง โดยประกันไม่ได้สนใจผู้เอาประกันว่าจะเอาเงินไปทำอะไร จะเอาเงินไปรักษาหรือไม่รักษา
เช่น ทำ LMG จ่าย 3 พันได้ทุน 5 แสน ถ้าจ่ายเพิ่มอีก 100 ได้ค่ารักษาเคมีบำบัด หรือรังสีรักษา แต่การเคลมเคมีบำบัด รังสีรักษา มีขั้นตอนและข้อกำหนดอีก ว่าต้องได้รับเคมีบำบัดภายในกี่วันหลังจากวินิจฉัยมะเร็งครั้งแรก และถ้าใช้สิทธิ์การรักษา 30 บาทหรือ ข้าราชการไปแล้ว ก็เคลมหมวดนี้ไม่ได้ เพราะประกันจะจ่ายตามจริง (ไม่มีใบเสร็จตัวจริงไปเบิก)
แต่แผนที่มีค่าชดเชยนอน รพ. โดยจ่ายเพิ่มจากแพกเกจพื้นฐาน 200 บาท น่าสนใจ ปกติผู้ป่วยมักจะอยากนอนห้องพิเศษ ซึ่งค่าห้องพิเศษอยู่นอกเหนือสิทธิ์ ข้าราชการก็เบิกได้สูงสุดต่อคืนแค่ 1000 บาท หากมีส่วนเกินก็สำรองจ่ายไปและไปเบิกชดเชยค่านอน รพ. ภายหลัง ได้วันละ 2500 บาท (ประกันไม่ได้สนว่า เงินชดเชยที่ได้ จะเอาไปทำอะไร)
ทำแผนสูงแค่ไหน ก็ไม่ได้ช่วยรักษามะเร็งระยะลุกลามให้หายได้
หากตรวจเจอมะเร็งระยะท้ายแล้ว การรักษามุ่งหวังประคับประคองอาการและการยืดระยะ ถึงแม้ว่าท่านจะเลือกทำประกันมะเร็งไว้กี่แผน รวมทุน สัก 10 ล้าน - พันล้าน (สตีฟ จ็อบ) ก็ไม่ได้รักษามะเร็งให้หายขาดได้ เพียงแต่อาจทำให้คุณภาพชีวิตที่เหลืออยู่ดีขึ้น เช่น ได้อาหารที่ดี ได้ดูแลในโรงพยาบาลชั้นนำ ที่ต้องแลกด้วยค่าห้องแพง
การตรวจเจอมะเร็งในระยะต้นๆ ที่รักษาหายขาด และมีกำลังทรัพย์ในการรักษา รีบรักษา ไม่ต้องรอคิวผ่า หรือ รอทำ CT ,MRI นาน นับเป็นสิ่งที่ได้ประโยชน์มากกว่า ของการทำประกันมะเร็ง (อย่าได้กลัวการตรวจคัดกรองมะเร็ง)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น